ควายควายบ้าน หรือ water buffalo (ที่เรียกแบบนี้ด้วยเหตุว่าควายไม่มีต่อมเหงือกสำหรับระบายความร้อนจากร่างกาย ก็เลยชอบอยู่กับน้ำ)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bubalus bubalis (Linnaeus)
จัดอยู่ในตระกูล Bovidae ปรับปรุงมาจากควายป่า
ชีววิทยาของควายป่าควายป่า หรือ wild water buffalo มีลักษณะเด่น คือ เขายาว (มีความยาวเฉลี่ยราว ๑๕๐ เซนติเมตร) เมื่อตัดตามขวางจะมองเห็นเขาเป็นสามเหลี่ยม มีรูปร่างทั่วไปเหมือนควายบ้าน แม้กระนั้นขนาดทุกโดยมากกว่ามากมาย ถ้าเกิดยืนเทียบกับควายบ้านจะดูอย่างกับว่าพ่อกับลูก ความสูงที่ไหล่ของเพศผู้ราว ๑.๘๐ เมตร น้ำหนัก ๘๐๐-๑๒๐๐ กก. โคนเขาดก วงเขากว้าง ปลายเขาแหลม ตอนล่างของเท้าอีกทั้งสี่มีสีขาว คล้ายใส่ถุงเท้าขาว ใต้คอมีลายขาวเป็นรูปลิ่มสามเหลี่ยมสันกว้าง ควายป่าเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่เป็นฝูงใหญ่ๆควายในฝูงส่วนใหญ่เป็นตัวภรรยารวมทั้งเพศผู้ที่ยังมีอายุน้อย เมื่อตัวผู้มีอายุเยอะขึ้น มักแยกตัวออกจากฝูงไปอยู่รวมทั้งหาเลี้ยงชีพโดดเดี่ยวเป็นควายโทน ในฝูงหนึ่งมีหัวหน้าฝูงสำหรับผสมพันธ์เพียงแต่ตัวเดียว ควายป่าชอบหาเลี้ยงชีพตามป่าและทุ่งหญ้าไม่ไกลจากแหล่งน้ำ เมื่อรับประทานอิ่มและจากนั้นก็ชอบนอนปลักโคนหรือนอนแช่น้ำในลำห้วย โคลนตมช่วยทำให้คุ้มครองควายไม่ให้ยุ่งเหลือบกัดมากนัก ควายป่ามีถิ่นฐานตั้งแต่ภาคกึ่งกลางของประเทศอินเดีย จนถึงรัฐอัสสัม ประเทศพม่า และก็ ประเทศในคาบสมุทรอินโดจีนทั้งหมดทั้งปวง และ ไทย ลาว เวียดนาม รวมทั้งเขมร และก็เมืองไทยเคยมีควายป่ามากตามลำน้ำที่ราบต่ำธรรมดา (ยกเว้นภาคใต้) ปัจจุบันนี้มีเหลืออยู่เฉพาะที่เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยแข้งขา จังหวัดอุทัยธานีเพียงแค่แห่งเดียว มนุษย์จับควายป่ามาเลี้ยงเพื่อใช้งานแม้กระนั้นโบราณ ขนาดตัวของมันก็เลยเล็กลงเพราะไม่กินอาหารรวมทั้งออกกำลังกายเหมือนควายป่า ควายที่มีสีผิวอ่อนหรือสีออกชมพูๆเรียก ควายเผือก (pink buffalo)
ประโยชน์ทางยาหมอแผนไทยรู้จักใช้นมควาย เขาควายเผือก และก็กระดูกควายเผือก เป็นเครื่องยา ดังนี้๑.
น้ำนมควาย ได้จากเต้านมของควายบ้านเพศภรรยาที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ตำราเรียนยาคุณประโยชน์โบราณว่า นมควายมีรสหวาน ร้อน มีสรรพคุณแก้พรรณดึกดื่น ทำให้เจริญอาหาร โบราณใช้น้ำนมควายเป็นทั้งยากระสายยารวมทั้งเครื่องยา ยาขนานที่ ๖๖ ใน แบบเรียนพระยารักษาโรคพระนารายณ์ เข้า “น้ำนมกระบือ” (นมควาย) เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง ร่วมกับ “นมแกะ” และก็เครื่องยาอันอื่นอีกหลายแบบ (มองเรื่อง”แกะ” หน้า ๒๓๗-๒๓๘)
๒.
เขาควาย ตำราเรียนยาคุณประโยชน์โบราณว่า เขาควายมีรสเย็น ควาย แก้สรรพพิษ แก้ร้อนใน ถอนพิษ แก้พิษไข้ เป็นต้น พระคู่มือปฐมจินดาร์ให้ยาขนานหนึ่ง เข้า “เขากระบือเผือก” (เขาควายเผือก) เป็นเครื่องยาด้วย ดังนี้ อันว่าลักษณะกุมารบุตรีคนใดกันแน่ เกิดขึ้นมาในวันจันทร์ วันพุฒ คลอดตอนเช้าเวลาเที่ยงก็ดี พอแม่ออกมาจากเรือนไฟแล้วราว ๓ เดือน ก็เลยตั้งกำเนิดทรางน้ำทรางสะกอเจ้าเรือน เมื่อจะมีขึ้นนั้น คือตั้งแต่คอถึงเพดานลุปากชนิดหนึ่ง ชนิดหนึ่งกินนอกไส้ขึ้นมาจนถึงลิ้น จึงปฏิบัติให้ลงแดง ให้กระหายน้ำ ให้เชื่อม ถ้าเกิดหมอวางยาถูกใจกุมารผู้นั้น ก็เลยจะได้ชีวิตคืน ถ้าจะแก้ท่านให้เอา เขาควาย ๑ เขาเบ็ญกานี ๑ สีเสียดทั้ง ๒
ดอกบุนนาค ๑ เกสรบัวหลวง บอแร็ก ๑
กระเทียม ๑ รวมยา ๘ สิ่งนี้เอาเท่าเทียมกัน ทำเป็นจุณบดทำแท่ง ละลายน้ำจันทร์รับประทาน แก้ลงท้องเพื่อทรางน้ำ พระหนังสือไกษยให้ “ยะประจำธาตุไกษยปลวก” ขนานหนึ่ง เข้า “เขาควาย” เป็น
เครื่องยาด้วย ดังต่อไปนี้ ยาประจำธาตุไกษยปลวก เอาเขาควายเผา ๑ ผลสบ้าเผา ๑ ปูนแห้งข้างเตาเผา ๑ สิ่งละ ๑ ส่วน พริกไทย ๓ ส่วน ตำเป็นผุยผงบดทำแท่งไว้ละลายน้ำปูนใสรับประทาน แก้ไกษย
ปลวก แล้วก็ก้าวหน้าธาตุให้สม่ำเสมอดีเลิศนัก ยาจีนใช้เขาควายแก้อาการหมดสติ รวมทั้งในโรคติดเชื้อแบบกระทันหันที่ทำให้มีไข้สูง และก็อาการเลือดออกเพราะเหตุว่าความร้อนข้างใน
๓.
กระดูกควาย ยาไทยนิยมใช้ “กระดูกควายเผือก” เป็นเครื่องยาอย่างหนึ่ง เช่น ยาแก้โรคเรื้อนรับประทานกระดูก ใน พระคัมภีร์ชวดาร ดังนี้ ยาต้มแก้โรคเรื้อนรับประทานกระดูกให้ขัดในข้อ เอากระดูกช้าง ๑ กระดูกแพะ ๑ กระดูกควายเผือก ๑ กระดูกสุนักข์ดำ ๑ เถาโคคลาน ๑ ป่าช้าหมอง ๑ ต้นหญ้าหนวดแมว ๑ ยาเข้าเย็นเหนือ ๑ ยาเข้าเย็นใต้ ๑ ยาดังนี้เอาเสมอภาค ดองเหล้าก็ได้ ต้มก็ได้กินแก้พยาธิแลโรคเรื้อน
Tags : ว่านชักมดลูก