Author Topic: ฉนวนกันเสียง การดูดซับเสียงควบคุมเสียง  (Read 136 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

siritidaphon

  • Guest
การควบคุมเสียงสำหรับอาคาร เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการออกแบบเพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการใช้งาน ของแต่ละพื้นที่ใช้สอยในอาคาร โดยเสียงที่มีผลกระทบต่ออาคารจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือเสียงจากภายนอกอาคาร (EXTERNAL NOISES) และเสียงจากภายในอาคา(INTERNAL NOISES)การป้องกันเสียงจากภายนอก สามารถที่จะป้องกันเสียงได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

1) ควบคุมด้วยระยะทาง ทุกระยะห่างจากต้นกำเนิดเสียง ความดังของเสียงจะลดลง อาทิ หากที่ดินของบ้านอยู่ติดถนนหรือบริเวณที่มีเสียงรบกวน อาจจะต้องวางตำแหน่งอาคารให้ไกลออกจากถนนให้มากเท่าที่จะทำได้
2)หลีกเลี่ยงบริเวณที่เสียงกระทบโดยตรง อาทิ การทำแผงหรือผนังกันเสียง ซึ่งอาจเป็นผนัง แนวรั้ว แนวต้นไม้ ที่จะช่วยกั้นเสียงและลดความเข้มของ เสียงโดยตรงก่อนที่จะที่จะถึงอาคาร
3) การวางผังอาคาร โดยให้พื้นที่ใช้สอยส่วนที่ไม่ต้องการความเงียบมากเป็นตัวป้องกันเสียง หรือกำหนดตำแหน่งช่องเปิดของอาคารหลีกเลี่ยงแนวทางของเสียง
4) การเลือกใช้วัสดุกันเสียงให้กับกรอบอาคาร
อาทิ การบุฉนวนใยแก้วให้กับผนังกรอบอาคาร การเลือกใช้กระจกสองชั้น หรือการใส่ฉนวนกันเสียงให้กับส่วนหลังคาอาคาร

ส่วนการป้องกันเสียงจากภายในอาคาร จะแบ่งเสียงภายในออกเป็น 2 ประเภท คือ เสียงโดยตรง(DIRECT NOISE) และเสียงสะท้อน (REVERBERANT NOISE) สามารถที่จะป้องกันเสียงได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

1)ลดเสียงจากแหล่งกำเนิด เสียงโดยตรง สามารถลดได้ด้วยการใช้แผงกั้นระหว่างต้นกำเนิดเสียงกับผู้ฟังเก็บต้นกำเนิดเสียงไว้ในกล่อง /ห้องที่ปิดมิดชิดที่ทำด้วยวัสดุป้องกันเสียง / ห้องที่มีผนังหนาทึบ หรือทำพื้นสองชั้นที่มีความยืดหยุ่นรองรับเครื่องกล เพื่อช่วยลด STRUCTURE-BORNE SOUND ส่วนเสียงสะท้อนสามารถลดโดยการใช้วัสดุดูดซึมเสียงที่ผนัง โดยเฉพาะด้านที่ทำให้เกิดเสียงสะท้อนมาก
2) ลดเสียงที่มาตกกระทบ โดยการวัสดุดูดซับเสียง และวัสดุป้องกันเสียง อาทิ การใช้แผ่นฉนวนเยื่อกระดาษบุเสริมตรงผนังด้านที่เป็นทางต้นกำเนิดเสียง หรือบุแผ่นชานอ้อยเพื่อดูดซับเสียงในโรงแสดงมหรสพ



ฉนวนกันเสียง การดูดซับเสียง/ควบคุมเสียง คลิ๊กเพิ่มเติมที่นี่ https://www.ฉนวนกันเสียง.com/ฉนวนกันเสียงดัง/

joker

  • Hero Member
  • *****
  • Posts: 1007
    • View Profile
ในปี ค.ศ. 1886 คาร์ล เบ็นทซ์ วิศวกรชาวเยอรมันได้สร้างรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์กลไกไฟเผาไหม้คันแรกของโลกได้เสร็จ (Benz Patent Motorwagen) โดยใช้ส่วนประกอบแบบลูกสูบเสมือนของเครื่องจักรละอองน้ำ joker ก็แค่ได้เพิ่มวัสดุอุปกรณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงเชื้อเพลิงในรูปของเหลวให้เปลี่ยนเป็นก๊าส รวมทั้งเพิ่มวาล์วไอดีไอเสีย ในลักษณะของเครื่องจักร 4 จังหวะ (ตอนนี้รถยนต์ใช้ระบบเครื่องจักรแบบการเผาไหม้ข้างใน) เครื่องจักรที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงในสมัยแรกๆนั้น ใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง ถัดมาใน คริสต์ศักราช 1897 รูด็อล์ฟ ดีเซิล พากเพียรสร้างสรรค์พลังงานอื่นมาใช้กับเครื่องยนต์กลไก จนถึงเสร็จเป็นเครื่องจักรน้ำมันดีเซล เมืองไทยเริ่มมีรถยนต์ใช้ในตอนปี พุทธศักราช 2446 (คริสต์ศักราช 1903) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยชาวต่างประเทศเป็นคนนำเข้ามาภายในประเทศซึ่งได้รับความพึงพอใจเป็นอันมาก 918kiss ต่อจากนั้นไทยได้เริ่มมีอุตสาหกรรมรถยนต์โดยใช้ชื่อบริษัทว่า ไทยรุ่ง ยูเนี่ยนคาร์ แต่ว่าปัจจุบันนี้เชื้อเพลิงดังที่กล่าวมาข้างต้นราคาแพงสูงมากขึ้นและก็จำนวน​ลดลงมากมายทำให้มีการสร้างสรรค์รถยนต์แบบใหม่ที่ใช้​กำลังไฟฟ้าที่สามารถทำขึ้นเองได้แล้วก็มีความนิยมชมชอบมากยิ่งขึ้น

joker

  • Hero Member
  • *****
  • Posts: 1007
    • View Profile
วันที่ 28 เดือนกรกฎาคม ความไม่ถูกกันประเดิมขึ้นเมื่อออสเตรีย-ฮังการีรุกรานเซอร์เบีย1415 และก็ตามด้วยการรุกรานเบลเยียม ลักเซมเบิร์กและก็ประเทศฝรั่งเศสของเยอรมนี แล้วก็การจู่โจมเยอรมนีของรัสเซีย joker ข้างหลังการบุกจู่โจมกรุงปารีสของเยอรมนีถูกหยุด แนวรบทางด้านตะวันตกก็เป็นการรบที่การสูญเสียที่อยู่กับที่ด้วยแนวสนามเพลาะซึ่งเปลี่ยนน้อยมากจนถึง คริสต์ศักราช 1917 ในทางทิศตะวันออก กองทัพรัสเซียสามารถเอาชนะกองทัพออสเตรีย-ฮังการี  918kiss แต่ว่าถูกกองทัพเยอรมันบีบให้ย้อนกลับจากปรัสเซียทิศตะวันออกรวมทั้งประเทศโปแลนด์ แนวรบใหม่ๆเปิดขึ้นเมื่อจักรวรรดิออตโตมันไปสู่การสู้รบใน คริสต์ศักราช 1914 อิตาลีรวมทั้งบัลแกเรียใน คริสต์ศักราช 1915 แล้วก็โรมาเนียใน คริสต์ศักราช 1916 จักรวรรดิรัสเซียล่มสลายใน คริสต์ศักราช 1917 แล้วก็รัสเซียถอนตัวจากการสู้รบข้างหลังการเปลี่ยนแปลงตุลาคมในปีเดียวกัน ข้างหลังการรุกตามแนวรบทางด้านตะวันตกของเยอรมนีใน คริสต์ศักราช 1918 กองทัพประเทศสหรัฐอเมริการ่วมการทำศึกแล้วก็กองทัพพันธมิตรสามารถส่งเสริมกองทัพเยอรมันกลับไปข้างหลังได้รับชัยต่อเนื่องกันหลายครา เยอรมนี ซึ่งประสบพบเจอปัญหากับนักปฏิวัติถึงเวลานี้ ได้ตกลงหยุดยิงช่วงวันที่ 11 พ.ย. คริสต์ศักราช 1918 ซึ่งมีชื่อเสียงกันในชื่อ วันหย่าศึก แล้วก็ความมีชัยเป็นของฝ่ายสัมพันธมิตร